- กระทู้ ผู้เขียน
- #1
สภาพอากาศที่ชื้นแฉะในฤดูฝน เป็นสิ่งที่ดูเหมือนจะน่ารำคาญใจสำหรับผู้ที่ไม่ชอบความเปียกปอนของน้ำฝน เพราะนอกจากจะทำให้รู้สึกไม่สบายตัวแล้ว ยังอาจเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุสำคัญที่ทำให้รถยนต์เกิด “สนิม” โดยเฉพาะบริเวณที่ถูกกระแทก โดนขูดขีดหรือถูกชนจนทำให้ตัวสีภายนอกหลุดร่อน แล้วจะมีวิธีป้องกันสนิมในรถยนต์ได้อย่างไร?
“สนิม” เกิดจากอะไร?
“สนิม” หรือเหล็กออกไซด์ (Iron Oxide) เกิดขึ้นเมื่อเหล็กได้รับความชื้น อิเล็กตรอนในอะตอมของเหล็กจึงเกิดการแตกตัวทำปฏิกิริยากับออกซิเจน เกิดเป็นสนิมกัดกินเนื้อเหล็ก และพัฒนาลักษณะของพื้นผิวจนเป็นสีน้ำตาลและสีแดง สูญเสียความสมบูรณ์ของโครงสร้างทำให้เหล็กเสื่อมสภาพจนเปราะและกลายเป็นขุย
รถยนต์เป็นสนิมได้อย่างไร?
• สภาพภูมิอากาศ - การสัมผัสกับฝนอยู่เป็นประจำ จะเพิ่มโอกาสให้ความชื้นไปทำปฏิกิริยาออกซิไดซ์กับเหล็กได้มากขึ้น จนอาจก่อให้เกิดสนิมกับส่วนประกอบของรถยนต์
• อายุของรถยนต์ - เมื่อเวลาผ่านไปสีและสารเคลือบป้องกันสีรถอาจมีการสึกกร่อน จนทำให้พื้นผิวรถยนต์เกิดสนิม
• วัสดุที่เป็นส่วนประกอบของตัวรถ - โดยทั่วไปแล้วรถยนต์รุ่นเก่าจะผลิตขึ้นโดยไม่มีสารเคลือบกันสนิม แต่ในรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ จะมีการใช้ขอบโค้งเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับบ่อล้อด้วย
• สไตล์การขับขี่ หากพฤติกรรมการขับขี่มีแนวโน้มขับผ่านแอ่งน้ำอยู่บ่อยครั้ง ก็เป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการกัดกร่อนจนทำให้เกิดรอยสนิมได้
บริเวณของรถยนต์ที่เกิดสนิมได้บ่อย
• โครงสร้างตัวรถ โดยเฉพาะใต้ประตูล่างทั้งสองฝั่ง ต้องหมั่นตรวจสอบทั้งภายในและภายนอกตัวถัง
• หลุมล้อ บริเวณส่วนโค้งเหนือยาง เป็นส่วนที่มีแนวโน้มที่จะเกิดสนิม โดยเฉพาะในรถยนต์รุ่นเก่า ๆ ที่มักไม่มีขอบยางโค้ง
• ท่อไอเสีย มักจะสัมผัสกับความชื้นจากภายใน และภายนอกซึ่งอาจถูกโคลน หรือสิ่งสกปรกขังอยู่
• ระบบกันสะเทือน มีแนวโน้มที่จะสัมผัสกับความชื้นบ่อยเนื่องจากอยู่ใกล้กับยาง
• กระจกบังลม ตรงบริเวณรอบ ๆ กระจกมีแนวโน้มที่จะเกิดการรั่วซึม และสัมผัสกับความชื้นได้
ป้องกันสนิมบนรถยนต์
• หมั่นล้างทำความสะอาดและเช็ดรถให้แห้งอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการเกิดสนิม
• WAX เคลือบพื้นผิวเพิ่มชั้นป้องกันให้กับงานสีของรถยนต์ โดยสามารถใช้ WAX เคลือบบริเวณที่มีความชื้นสะสมอยู่บ่อยๆ
• น้ำยากันสนิม จะช่วยขับความชื้นออกจากบานพับข้อต่อ และบริเวณที่ยากต่อการเข้าถึงอื่นๆ อีกด้วย
• จอดรถในโรงรถหรือที่ที่มีหลังคา จะช่วยปกป้องสีรถจากสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ได้
แก้ปัญหาสนิมติดรถยนต์
วิธีแก้ปัญหาสนิมในรถยนต์สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง ดังนี้
1. เอาผ้าเช็ดทำความสะอาดบริเวณที่เกิดสนิมให้สะอาด
2. สังเกตดูว่าจุดที่เกิดสนิมห่างจากจุดที่เป็นสีของตัวถังแค่ไหน หากอยู่ห่างมาก ให้ใช้กระดาษทรายขัดเพื่อให้ได้ผลดี ควรเลือกใช้กระดาษทรายเบอร์ 800 ขึ้นไป
3. เมื่อขัดจนสนิมหายแล้ว ใช้ผ้าแห้งเช็ดคราบสนิมที่เหลือออกไป ห้ามใช้น้ำล้าง ให้ใช้พวกสเปรย์หล่อลื่น น้ำมันหล่อลื่น ในการล้าง แล้วก็เช็ดออกอีกที
4. ใช้จาระบี บีบอัดลงไปในจุดที่ขัดไว้
สนิมที่เกิดขึ้นบริเวณสีรถ โดยเฉพาะสนิมที่เกิดจากรอยเฉี่ยวชนหรือถูกเศษหินกระเด็นใส่ ไม่ควรซ่อมแซมด้วยตัวเอง ควรนำไปให้ช่างประเมินความเสียหายที่อู่ซ่อมรถหรือศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบความเสียหายโดยละเอียด ช่วยคุ้มครองรถคุณครอบคลุมทุกเรื่องทั้งความเสียหายต่อตัวรถยนต์หรือบุคคลภายนอก ด้วยประกันรถยนต์ตามโปรไฟล์ ..โปรไฟล์ยิ่งดี ความเสี่ยงยิ่งต่ำ เบี้ยยิ่งถูก.. โปรไฟล์คุณอาจดีกว่าที่คุณคิด เบี้ยเริ่มต้น 6,999 บาท และยังถูกลงได้อีก หากเลือกแบบมีดีดัก และระบุชื่อผู้ขับขี่ (ลดสูงสุดเหลือเพียง 3,999 บาท) "การันตีถูกจริง" สนใจรายละเอียด คลิก https://www.smk.co.th/productmotordetail/20
“สนิม” เกิดจากอะไร?
“สนิม” หรือเหล็กออกไซด์ (Iron Oxide) เกิดขึ้นเมื่อเหล็กได้รับความชื้น อิเล็กตรอนในอะตอมของเหล็กจึงเกิดการแตกตัวทำปฏิกิริยากับออกซิเจน เกิดเป็นสนิมกัดกินเนื้อเหล็ก และพัฒนาลักษณะของพื้นผิวจนเป็นสีน้ำตาลและสีแดง สูญเสียความสมบูรณ์ของโครงสร้างทำให้เหล็กเสื่อมสภาพจนเปราะและกลายเป็นขุย
รถยนต์เป็นสนิมได้อย่างไร?
• สภาพภูมิอากาศ - การสัมผัสกับฝนอยู่เป็นประจำ จะเพิ่มโอกาสให้ความชื้นไปทำปฏิกิริยาออกซิไดซ์กับเหล็กได้มากขึ้น จนอาจก่อให้เกิดสนิมกับส่วนประกอบของรถยนต์
• อายุของรถยนต์ - เมื่อเวลาผ่านไปสีและสารเคลือบป้องกันสีรถอาจมีการสึกกร่อน จนทำให้พื้นผิวรถยนต์เกิดสนิม
• วัสดุที่เป็นส่วนประกอบของตัวรถ - โดยทั่วไปแล้วรถยนต์รุ่นเก่าจะผลิตขึ้นโดยไม่มีสารเคลือบกันสนิม แต่ในรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ จะมีการใช้ขอบโค้งเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับบ่อล้อด้วย
• สไตล์การขับขี่ หากพฤติกรรมการขับขี่มีแนวโน้มขับผ่านแอ่งน้ำอยู่บ่อยครั้ง ก็เป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการกัดกร่อนจนทำให้เกิดรอยสนิมได้
บริเวณของรถยนต์ที่เกิดสนิมได้บ่อย
• โครงสร้างตัวรถ โดยเฉพาะใต้ประตูล่างทั้งสองฝั่ง ต้องหมั่นตรวจสอบทั้งภายในและภายนอกตัวถัง
• หลุมล้อ บริเวณส่วนโค้งเหนือยาง เป็นส่วนที่มีแนวโน้มที่จะเกิดสนิม โดยเฉพาะในรถยนต์รุ่นเก่า ๆ ที่มักไม่มีขอบยางโค้ง
• ท่อไอเสีย มักจะสัมผัสกับความชื้นจากภายใน และภายนอกซึ่งอาจถูกโคลน หรือสิ่งสกปรกขังอยู่
• ระบบกันสะเทือน มีแนวโน้มที่จะสัมผัสกับความชื้นบ่อยเนื่องจากอยู่ใกล้กับยาง
• กระจกบังลม ตรงบริเวณรอบ ๆ กระจกมีแนวโน้มที่จะเกิดการรั่วซึม และสัมผัสกับความชื้นได้
ป้องกันสนิมบนรถยนต์
• หมั่นล้างทำความสะอาดและเช็ดรถให้แห้งอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการเกิดสนิม
• WAX เคลือบพื้นผิวเพิ่มชั้นป้องกันให้กับงานสีของรถยนต์ โดยสามารถใช้ WAX เคลือบบริเวณที่มีความชื้นสะสมอยู่บ่อยๆ
• น้ำยากันสนิม จะช่วยขับความชื้นออกจากบานพับข้อต่อ และบริเวณที่ยากต่อการเข้าถึงอื่นๆ อีกด้วย
• จอดรถในโรงรถหรือที่ที่มีหลังคา จะช่วยปกป้องสีรถจากสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ได้
แก้ปัญหาสนิมติดรถยนต์
วิธีแก้ปัญหาสนิมในรถยนต์สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง ดังนี้
1. เอาผ้าเช็ดทำความสะอาดบริเวณที่เกิดสนิมให้สะอาด
2. สังเกตดูว่าจุดที่เกิดสนิมห่างจากจุดที่เป็นสีของตัวถังแค่ไหน หากอยู่ห่างมาก ให้ใช้กระดาษทรายขัดเพื่อให้ได้ผลดี ควรเลือกใช้กระดาษทรายเบอร์ 800 ขึ้นไป
3. เมื่อขัดจนสนิมหายแล้ว ใช้ผ้าแห้งเช็ดคราบสนิมที่เหลือออกไป ห้ามใช้น้ำล้าง ให้ใช้พวกสเปรย์หล่อลื่น น้ำมันหล่อลื่น ในการล้าง แล้วก็เช็ดออกอีกที
4. ใช้จาระบี บีบอัดลงไปในจุดที่ขัดไว้
สนิมที่เกิดขึ้นบริเวณสีรถ โดยเฉพาะสนิมที่เกิดจากรอยเฉี่ยวชนหรือถูกเศษหินกระเด็นใส่ ไม่ควรซ่อมแซมด้วยตัวเอง ควรนำไปให้ช่างประเมินความเสียหายที่อู่ซ่อมรถหรือศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบความเสียหายโดยละเอียด ช่วยคุ้มครองรถคุณครอบคลุมทุกเรื่องทั้งความเสียหายต่อตัวรถยนต์หรือบุคคลภายนอก ด้วยประกันรถยนต์ตามโปรไฟล์ ..โปรไฟล์ยิ่งดี ความเสี่ยงยิ่งต่ำ เบี้ยยิ่งถูก.. โปรไฟล์คุณอาจดีกว่าที่คุณคิด เบี้ยเริ่มต้น 6,999 บาท และยังถูกลงได้อีก หากเลือกแบบมีดีดัก และระบุชื่อผู้ขับขี่ (ลดสูงสุดเหลือเพียง 3,999 บาท) "การันตีถูกจริง" สนใจรายละเอียด คลิก https://www.smk.co.th/productmotordetail/20